ตรงนี้น่าจะเป็นชั้นที่ 1 |
จากด้านบนสุด น้ำนี้จะไหลไปที่เหวนรก น้ำน้อยมาก มีให้เห็นขนาดนี้นับว่าโชคดีแล้วมั้งเนอะ |
จุดชมวิวชั้นที่ 3 ความเหนื่อยเริ่มจางหาย เมื่อได้เห็นความสวย(ไม่มาก)ของน้ำตกเหวนรก (ชื่อเหมาะมากกกกก) อากาศตรงนี้เย็นสบาย ทั้งที่แดดร้อนเปรี้ยง คงเป็นเพราะใกล้กับน้ำตกน่ะเอง |
ด้านล่างสุด น่าจะเรียกว่าน้ำตกชั้นที่ 4 |
จุดพักเหนื่อย ขอพักตรงนี้ก่อนน่ะ |
น้ำตกที่ตกลงมาแรง เนื่องจากความสูง แต่น้ำไม่มาก อาจะเป็นเพราะตอนที่เราไปเป็นช่วงหน้าแล้ง น้ำจึงเลยน้อย |
ป้ายบอกทางลงจากจุดด้านบน เดินลงไปด้านล่าง อีก 100 เมตร แต่เป็นบันไดถึง 198 ขั้น |
ขั้นบันไดก็เดินลำบาก สำหรับคนเท้ายาวอย่างลูกชายเรา ขั้นแคบๆและถี่ๆ เวลาเดินต้องเดินเอียงเท้า |
เดินลงบันไดมาได้ครึ่งทาง ต่อมเหนื่อยทำงานหนัก ลิ้นห้อย ขาสั่น ขอเบรคพักแป๊บน่ะ |
คุณสามีที่รัก ต้องเดินคุมหลัง เพราะกลัวว่าเมียสุดที่รักจะเป็นลมร่วงบันได ก่อนจะถึงข้างบน (เริ่มลิ้นห้อยหนักกว่าตอนขาลง) |
ความสูงของบันไดที่ลงมาชมน้ำตกกันด้านล่าง |
จากจุดที่จอดรถ เดินเข้ามาในป่าเพื่อจะไปชมน้ำตกต้องข้ามสะพานที่มีน้ำ(แห้งๆ)ไหลผ่าน ป้ายบอกว่าระยะทางเพียง 100 เมตร แต่ทำไมเวลาเราเดินกันเข้าไป มันเหมือน 1000 เมตรเลยฟ่ะ |
ไกด์คนนำทาง เดินเก่งอยู่คนเดียวในบรรดาลูกทัวร์ |
ด้านบนที่เป็นสายน้ำไหลจากภูเขาที่จะไหลลงไปเป็นน้ำตกด้านล่าง |
ถ้าเป็นช่วงน้ำมากแถวนี้คงจะอุดมสมบูรณ์และเต็มไปด้วยน้ำไหลเชี่ยว แต่่ตอนนี้มันช่างแห้งแล้งและไม่สดใสเอาซะเลย |
ถ่ายภาพ : Paul and Janet
No comments:
Post a Comment