ทุ่งนาเขียว ข้าวกำลังจะออกรวง สีเขียวสด ตัดกับท้องฟ้าใสทำให้คิดถึงวัยเด็ก สมัยเรียนเกษตรกรรม ปี 3 อาจารย์จะให้พวกเราปลูกข้าวคนละ 1 งานตั้งแต่ปลูกกล้า ไถดินในนา ปล่อยน้ำเข้านา ปลูกด้วยวิธีดำ และดูแลใส่ปุ๋ย ฉีกยาฆ่าแมลง ทำเองทุกอย่าง ตลอดจนถึงการเก็บเกี่ยว พวกเราหมู่เพื่อนฝูงก็ช่วยกันคนละไม้คนละมือ ทำแปลงนี้เสร็จก็ไปต่อแปลงโน้น ช่วยกันไปจนเสร็จ ถึงจะเหนื่อยแสนเหนื่อย แต่ก็มีความสนุกปะปน แล้วยังมีความรักและผูกพันในความเป็นเพื่อนของพวกเราอีกด้วย
จึงทำให้พวกเราที่เรียเกษตรฯกันมา ได้รู้ว่าการที่ชาวนาทำนา ปลูกข้าวให้พวกเรากินนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ทั้งเหนื่อย ทั้งลำบากตั้งคอยดูแลไม่ให้แมลงหรือศัตรูพืชมากินข้าวให้เสียหาย บางคนถึงกับต้องนอที่กลางทุ่งนาบ้างก็มี
ศัตรูข้าวอันร้ายกาจของชาวนาคือ หนู ...จึงต้องมีเครื่องมือดักหนู แบบนี้เอาวางไว้ที่นาเสมอ
ชีวิตในชนบท ตื่นเช้าก็ออกไปทำนา บ้างก็ไปหาปลา, เก็บฝืน, เก็บผัก-ผลไม้ ในไร่ในนา พอตกเย็นกลับบ้านมา พร้อมอาหาร ไม่ว่าจะเป็นปลา พืชผักที่เก็บมาจากธรรมชาติ นำมาปรุงเป็นอาหารทานกัน เป็นชีวิตที่ดูเรียบง่าย ไม่วุ่นวาย ไม่ต้องเครียดกับรถติด เป็นความสุขไปอีกแบบหนึ่งของวิถีชีวิตของเค้า
แสงแดดยามเช้า สาดส่องลอดกิ่่งไม้
ชาวบ้านออกหาปลา เพื่อเป็นอาหารของครอบครัว
แม่นกออกหาอาหาร เพื่อเอามาเลี้ยงลูกนกที่นอนรออ้าปากอยู่ในรัง
ส่วนเราก็ได้ กาแฟร้อนๆหอมกรุ่น 1 แก้ว กับปาท่องโก๋ร้อนๆ ซื้อมาจากตลาดเช้า 2-3 ตัว
ก็อิ่มแล้วสำหรับมื้อเช้าที่เรียบง่าย
ความสุขในชีวิตชนบาท ก็เป็นอันแค่ 2 วันที่ได้กลับไปสัมผัส แล้วเราก็ต้องมาเจอกับอากาศร้อนๆ รถติดๆ เหมือนกันเดิม ขากลับ ท้องฟ้ามืด เกรงว่าฝนจะตกก่อนที่จะถึงบ้าน พอเลี้ยงเข้าหมู่บ้านเท่านั้นแหละ ก็ตกลงมาอย่างแรง ช่วยให้หายร้อนไปได้บ้างนิดหน่อย
No comments:
Post a Comment