March 28, 2009

เที่ยวบ่อน้ำพุร้อน พระร่วง จังหวัดกำแพงเพชร


ออกจากเชียงใหม่ เดินทางกลับลงมาทางลำปาง สุโขทัย สามีวางแผนว่าจะแวะค้างคืนกันที่กำแพงเพชร 1 คืน แล้วค่อนเดินทางกลับกรุงเทพในวันรุ่งขึ้น จริงๆแล้วอยากค้าง 2 คืน แต่ลูกๆ บอกเบื่อแล้ว อยากกลับบ้านเร็วๆ จริงแล้วที่เจ้าสองคนนี่เบื่อเป็นเพราะว่าเวลามาเที่ยวแบบนี้ ไม่มีอินเตอร์เนทเล่น เลยเกิดอาการเบื่อง่าย นี่แหละปัญหาลูกวัยรุ่นที่ชอบคอมพิวเตอรมากกว่าสิ่งใด
ก่อนออกมาจากบ้านพี่สาว เธอแนะนำว่าให้แวะเที่ยวบ่อน้ำพุร้อน พระร่วง ก่อนจะถึงตัวจังหวัดกำแพงเพชร เลยแวะดูว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง พอไปถึง ก็เห็นว่า สถานที่กว้างขวางสะอาด และร่มรื่น แต่วันที่เราไปถึง ร้อนตับแลบ เดินไม่ได้นาน เพราะทนความร้อนไม่ไหว
ประวัติของบ่อน้ำพุร้อน ขอยืมข้อมูลมาจาก กำแพงเพชรดอทคอม ก่อนแล้วกันน่ะค่ะ เพราะตัวเองเริ่มจำไม่ได้แล้วว่าอยู่ตรงไหน ของกำแพงเพชร



บ่อน้ำพุร้อนพระร่วง (บึงสาป)

ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 3 ตำบลลานดอกไม้ อำเภอเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร โดยสามารถเดินทางไปได้ 2 เส้นทาง เส้นทางแรก ถนนสายกำแพงเพชร - สุโขทัย (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 101) ห่างจากตัวเมืองกำแพงเพชร ระยะทางประมาณ18 กิโลเมตร (ช่วงระยะกม.ที่ 375-376) และแยกซ้ายมือไปอีกประมาณ 7 กิโลเมตร อีกเส้นทางหนึ่งคือถนนสายบ้านหนองปลิงบ้านท่าไม้แดง โดยทางแยกเข้าบ่อน้ำพุห่างจากตัวเมืองกำแพงเพชร ระยะทางประมาณ 21 กิโลเมตร และแยกขวามือไปอีก 5 กิโลเมตร มีพื้นที่โดยประมาณ 15 ไร่เศษ

ลักษณะทั่วไป เป็นน้ำพุร้อนผุดขึ้นมาจากใต้ดินจำนวน 5 จุด มีความร้อนประมาณ 40 - 65 องศาเซลเซียส เป็นที่โจษขานว่าสามารถนำกลับไปเพื่อเป็นสิริมงคล จากการตรวจสอบของกระทรวงสาธารณสุขปรากฏว่า ไม่มีสารปนเปื้อนและเชื้อโรคอันตราย เกินมาตรฐานแต่อย่างใด

"พระร่วง" เมื่อครั้งยังเป็นหนุ่ม มีนิสัยคะนองชอบเล่นเบี้ยเล่นว่าว เล่นไก่ เจ้าชู้ โดยไม่ถือ พระองค์ชอบเสด็จไปในท้องถิ่นทุรกันดารและเมื่อเสด็จไปในที่ต่างๆ ก็มักจะเกิดเป็นตำนาน ขึ้นมากมาย กล่าวกันว่าพระร่วงเป็นผู้มีบุญญาธิการ รู้ทั้งบังเหลื่อม รู้จบไตรเทพวิทยาคม อีก ทั้งมีวาจาสิทธิ์

จากตำนานโบราณกล่าวว่าพระร่วงได้เดินทางมาถึงบริเวณเขาไก่เขี่ย พระองค์ ได้ไก่ป่าตัวหนึ่งเมื่อเดินมาถึงบริเวณสถานที่ร่มรื่นพระองค์เกิดหิวจึงตั้งใจจะกินไก่ตัวนี้เสีย จึงได้สาปบริเวณนี้เป็นบ่อน้ำพุร้อนเพื่อที่จะได้นำน้ำร้อนมาลวกไก่และถอนขนเมื่อถอนขนเสร็จไม่มี น้ำเย็น จึงสาปน้ำเย็นขึ้น จึงเกิดมีบ่อน้ำร้อน และน้ำเย็นขึ้นบริเวณใจกลางบึงสาปนั้น หรือจากข้อสันนิษฐาน กล่าวว่า พระองค์คงสาปน้ำร้อนน้ำเย็นเพื่อทำความสะอาดไก่หรือที่เรียกว่าให้น้ำไก่ แล้วพระองค์ก็ได้เดินทางต่อไปกลายเป็น "บ่อน้ำร้อนบึงสาป" เขาไก่เขี่ย ดังได้กล่าวแล้ว


พอเดินเข้าประตูทางเข้ามา ด้ายซ้ายมือก็จะเจอศาลของพระร่วง ตั้งอยู่ จะมีผู้คนมากราบไหว้สักการะบูชา ตลอดเวลา ช่วงที่เราไปกันวันนั้นเป็นวันธรรมดา คนเลยไม่ค่อยเยอะ เห็นรูปปั้นไก่ชนมากมาย ก็แปลกใจ พอได้อ่านประวัติของท่านถึงได้รู้


ปัจจุบันบ่อน้ำพุร้อนพระร่วง มีการปรับปรุงสภาพภูมิทัศน์โดยรอบให้มีความสวยงามเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ และสำหรับพักผ่อน มีการจัดสถานที่สำหรับให้บริการอาบน้ำแร่ อ่างอาบน้ำร้อน อ่างแช่และนวดฝ่าเท้า และนวดแผนโบราณในบริเวณบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้ด้วย

มีศาลาไว้นั่งเล่น หรือพักผ่อนคลายร้อนได้เหมือนกัน ด้านหลังก็เป็นบ่อน้ำ


บริเวณรอบๆสวน ตกแต่งสวยงาม เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ถ้าเดินตอนเย็นๆ คงจะเย็นสบายน่าเดินเล่น


บ่อนี้คนเยอะแยะ มานั่งแช่เท้ากัน น้ำในบ่อจะร้อนพอดี เดินไปใกล้บ่อ ที่อยู่เหนือคนพวกนี้นั่ง แล้วลองเอามือจุ่มลงไปดู อืมมมมร้อนเหมือนกัน แต่ไม่ถึงขนาดลวกไข่ได้ เหมือนที่บ่อน้ำพุร้อน สันกำแพง จ เชียงใหม่ ที่นั่น พวกเราซื้อไข่ไปยืนลวกกินกันเลยหล่ะค่ะ

ไม่ได้เดินรอบๆบริเวณมากนัก เพราะแดดร้อนมาก พอจากตรงนี้ก็เดินกลับไปที่รถเลย แล้วเดินทางต่อไปเข้าตัวเมืองและกาที่พัก ก็มาเจอที่นี่ เป็นโฮมเสตย์ ติดแม่น้ำ เป็นห้องพักที่น่าสบายดี อากาศก็ดีเพราะด้านหน้าเป็นแม่น้ำ (ลืมแล้วแม่น้ำอะไร อิอิิอิ)


ปลูกไสตล์ชนบทดี ใช้ไม้ซีกมาตีเป็นฝาผนังห้องพัก  


ห้องพักเลขที่ ก ๑๓ 


ด้านในกรุด้วยไม้ไผ่ที่เค้าสานกันเป็นแผง จำไม่ได้อีกแล้วว่าเค้าเรียกอะไร ไม่รู้ใช่แฝกหรือเปล่า

โฮมเสตย์แบบนี้ ยังอุตสาห์มีแอร์ มีน้ำอุ่นให้อีกด้วย แถมราคาค่าเช่าก็คืนละ 350 บาทเท่านั้น ถูกแสนถูกเลยน่ะเนี้ย


พระอาทิตย์ตกดินยามเย็น

ตื่นมาตอนเช้า เห็นพระอาทิตย์ขึ้้นตอนเช้าตรู่สวยจัง



ทางที่พักจัดเตรียมอหารเช้าไว้ให้พวกเรา มีกาแฟ ชา โอวัลติน กับ ปาท่องโก๋


และยังมีข้าวต้มหมูอีกด้วย 



ด้านหน้าของโฮมเสตย์ และหน้าห้องพักของอีกด้านหนึงติดกับห้องที่เราพัก


No comments: