December 03, 2008

เที่ยวเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ 1

เที่ยว "เขาค้อ" เป็นความคิดของคุณสามีที่รัก ที่ไปอ่านเจอในอินเตอร์เนท ว่า เขาค้อ มีอากาศหยาวเย็น และเป็นดินแดนที่คนเค้าเรียกกันว่า "Swiss Thailand" ก็เลยเกิดอยากไปเที่ยวที่นั่นดูบ้างว่าเป็นยังงัย เพราะมลกะลูกคงไม่มีโอกาสได้ไปสวิสฯ จริงๆ ลองไปปรับตัวให้เข้ากับอากาศเย็นเหมือนสวิสฯก่อน มลเองเคยไปเข้าค้อ เมื่อ 20 กว่าปีก่อน สมัยเรียนอยู่เกษตรสิงห์บุรี อาจาร์ยพาพวกเราไปเที่ยวและปลูกต้นไม้กันที่นั่น สมัยนั้น ทางขึ้นเขาลำบากมาก แล้วสองข้างทางเป็นป่ารก กลัวพวกคอมมิวนิสต์จะดักข้างทางเหมือนกัน ฮ่าๆๆๆๆ ...แต่ก็สนุกสนานกันตามประสาเด็กไม่เคยไปไหน...

วันนี้กลับมาอีกครั้ง ดูแปลกตา แปลกใจ ทุกอย่างเปลี่ยนไปเยอะ ถนนหนทางดีขึ้น บ้านพัก รีสอร์ท โฮมเสตย์ มากมายเกลื่อนกลาดเกิดขึ้นเป็นดอกเห็ด ดูแล้วเจริญกว่าสมัยที่เคยมาเยอะเลยค่ะ

เรามาพักกันที่นี่ค่ะ "เขาค้อคันทรี่โฮม" คุณอภิชาติ เพื่อนรุ่น 8 จากเกษตรสิงห์บุรี แนะนำมา เพราะเป็นรีสอร์ทของน้าชาย ไม่ผิดหวังจริงๆ เพราะรีสอร์ทเล็กๆ มีไม่กี่หลัง แต่ก็อบอุ่นและสบายดีเหมือนกัน เพราะเป็นช่วง"ก่อน"วันหยุดยาว ทำให้รีสอร์ทที่นี่ มีเพียงครอบครัวเราเพียงครอบครัวเดียวที่มาพักที่นี่ แต่วันที่เราจะเช็คเอาท์ ปคุณป้า ผู้ดูแลบอกว่า จะมีคนมาเช็คอินกันเยอะ เพราะห้องที่จองไว้เต็มยาวถึงวันที่ 6 ธคเลยหล่ะคะ

บ้านพักหลังใหญ่ ขนาดจุคนได้ 10-12 คนเลยทีเดียว

"บ้านโอบดาวและอาบเดือน" เป็นบ้านหลังคู่ มี 2ห้อง พักได้ 7-8 คน

" บ้านโอบอุ่น" ที่เราไปพักกัน พักได้ 4 คน โดยมีเตียงเสริม 1 และที่นอนเสริม 1 ให้

ภายในบ้านพัก จัดได้น่ารักดีค่ะ เป็นเรือนไม้ทั้งหลัง แต่พื้นเป็นกระเบื้อง เย็นมากๆ เย็นจนพวกเราต้องใส่ถุงเท้าเดินกันเลยหล่ะค่ะ อากาศที่ไปวันนั้น คิดว่าอยู่ที่ 14-16 องศาซี เพราะกลางคืน หนาวจับใจ ทั้งถุงมือ ถุงเท้า ยังไม่หายหนาว ยังต้องใส่หมวกนอนด้วย (เพราะถ้าหัวเราอุ่นๆ ร่างกายเราก็อุ่นไปด้วย)

ห้องน้ำ สะอาด สวยดี แต่ไม่ค่อยได้ใช้ อ้าววว...คงจะงงทำไมไม่ใช้ ใช้ค่า แต่ใช้ไม่บ่อย เพราะข้างในนั้นมันเย็นค่า ฮ่าๆๆๆ...เดินเข้าไปนี่เย็นยะเยือกเลย อาบบน้ำเราต้องอาบกันตอนบ่าย เพราะถ้าตะวันตกดิน ไม่ต้องพูดถึง แต่ล้างมือยังสั่นเลยจ้า อิอิอิ

บ้านพักที่มี เค้าจัดไว้ "แบบนอนเตียงเดี่ยว-คู่"

หรือจะเป็นบ้านพักแบบเตียงนอนคู่ ก็มีให้เลือกค่ะ

บริเวณรอบๆ สนามหญ้าตรงกลางรีสอร์ท มีเต้นท์กางไว้ สำหรับแขกที่มาพักที่นี่ แล้วต้องการนอนเต้นท์ ก็มีให้เลือกขนาด 4-6 คน หรือ 2-4 คนค่ะ

บริเวณตรงกลางภายในรีสอร์ท เค้าจัดให้มี กองไฟกลางสนาม สำหรับแขกที่มาพักกันเป็นกลุ่มหรือคณะ กลางเต้นท์นอนกันที่สนามหญ้า กลางคืนก็สามารถเล่นรอบกองไฟได้

ยามเช้าตอนสายของวันใหม่ ชมบริเวณรอบๆรีสอร์ท ดูสดชื่นดีจัง อากาศก็ดี ขนาดสายมากแล้ว ยังเย็นๆอยู่เลยหล่ะค่ะ นี่ถ้าได้มีบ้านแถวนี้ซักหลังเอาไว้เป็นบ้านพักช่วงวันหยุด คงมีความสุขไม่น้อยน่ะเนี้ย แต่คงไม่คิดจะอยู่ถาวร เพราะเป็นคนไม่ชอบอากาศที่หนาวเย็นจนเกินไป เป็นโรคขี้หนาวค่ะ อิอิอิ

ศาลาสำหรับนั่งรับประทานอาหารเช้า และเป็นห้องครัว ที่คุณป้า ทำอาหารเลี้ยงพวกเรา

ที่รีสอร์ทแห่งนี้ ราคาที่พัก เค้าจะรวมอาหารเช้าให้เราด้วย มากี่คนก็จัดให้ตามจำนวนคน โดยจะเป็นหน้าที่ของคุณป้าสองพี่น้อง คือ คุณป้าเหวียงและคุณป้าม่วย จะเป็นคนจัดอาหารเช้าไว้ให้พวกเรา ไม่ว่าจะเป็น ข้าวต้มเครื่องบ้าง ข้าวต้มกุ๊ยบ้าง แล้วยังมีชา, กาแฟ,ไมโล,ซีเรียล และยังรวมไปถึง ขนมปังปิ้ง ทาเนย ทาแยมให้พวกเราอีกด้วยน่ะคะ

ลากันด้วยภาพ สองป้า ที่น่ารักและมีน้ำใจ ดูแลพวกเราตลอด 2 วันที่พักกันที่นั่น ไม่ช่ายญาติแต่ก็เหมือนญาติ ขอบคุณ คุณป้าเหวียง และคุณน้าม่วย สองพี่น้องที่น่ารักค่ะ

photo by MaeJJ

No comments: